Accessibility Tools

Skip to main content
เฉลิมพระชนมพรรษา รัชกาลที่ 10
ป้ายชื่อมูลนิธิธรรมิกชน
ครบรอบ 45 ปีมูลนิธิธรรมิกชน
ส่องทางสร้างโอกาส

      มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ก่อตั้งโดยนายประหยัด ภูหนองโอง เปิดทำการสอนเด็กตาบอดครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2521 ณ บ้านเช่าในซอยธารทิพย์ ถนนประชาสโมสร อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยเริ่มแรกมีเด็กตาบอด 13 คน และได้รับเงินบริจาคเริ่มต้น 10,000 บาทจากนางโรสลิม ชาวสิงคโปร์ รวมถึงเตียง 12 หลังจากมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ซึ่งในขณะนั้น    ชื่อว่าสถานคริสเตียนสงเคราะห์การศึกษาคนตาบอด

     มูลนิธิมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการศึกษา ส่งเสริมอาชีพ ฟื้นฟูสมรรถภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทางการเห็น ดำเนินงานมาแล้ว   45 ปี และมีคนพิการทางการเห็นได้รับบริการมากกว่า 10,000 คน ปัจจุบันมีหน่วยงานภายใต้ความรับผิดชอบ 26 หน่วยงาน

เด็กนักเรียนตาบอด กำลังเอามือสัมผัสที่งวงช้าง
นักเรียนตาบอดกำลังเล่นโฟคซอง
คนตาบอดยืนถือไม้เท้า

ข่าวสารมูลนิธิ

เด็กนักเรียนตาบอดยืนเรียงกันกำลังยกมือสวัสดี
ผ้าป่า โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย
รับมอบ Note book
ดร.คณิต ผามณี  ผอ.กรกนก  ผอ.อิสรีย์ นั่งรวมรายการเสวนาิชาการ
กิจกรรมเสวนาวิชาการ
การแสดงบนเวทีของคณะครูโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น
กิจกรรมคืนสู่เหย้าเราชาวธรรมิกชน

    หน่วยงานภายใต้การดำเนินงานมูลนิธิ

           ท่านสามารถเข้าไปเยี่ยมชมให้กำลังใจ และสนับสนุนการดำเนินงานของเราได้ตามพื้นที่ให้บริการดังต่อไปนี้

    แผนที่ประเทศไทย
    โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย

    โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย

    มูลนิธิธรรมิกชน (สำนักงานใหญ่)

    อาคารเบญญาลัย

    สำนักหอสมุดเบญญาลัย

    สนับสนุนเรา

    สนับสนุนทุนทรัพย์

    สนับสนุนอุปกรณ์ทางการศึกษา

    สนับสนุนกิจกรรม/โครงการ

    จิตอาสา

    บทความสาระความรู้

    การศึกษาคือโอกาสพัฒนาชีวิต

    คนแจวเรือกับหัวใจที่เข้มแข็ง

    แรงบันดาลใจจากใครคนหนึ่ง

    สื่อเทคโนโลยี นวัตกรรมสำหรับคนตาบอด

    สวนเกษตร “ส่งเสริมประสาทสัมผัส”

    จานใบหนึ่งที่ขอบบิ่นไปนิดหน่อย    หากเราค่อยชำระล้างสะอาดใส  จานยังคงทำหน้าที่อยู่ต่อไป         เราก็ใช้สอยได้ดั่งใจพลัน        หากปล่อยจานขอบบิ่นจนสิ้นท่า    สกปรกเหลือคนาชนเดียดฉันท์      ค่าของจานขอบบิ่นสิ้นสูญพลัน     ควรหรือนั่นลองถามใจให้คิดดู

    Facebook Live Messenger