Accessibility Tools

Skip to main content
รูปดร.ประหยัด ภูหนองโอง
ประวัติความเป็นมา
มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์
เมื่อปี 2521 นายประหยัด ภูหนองโอง บัณฑิตตาบอด ได้เช่าบ้านครึ่งหลังในซอยธารทิพย์ ถนนประชาสโมสร ตำบล ในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้วยเงินช่วยเหลือจำนวน 10,082 บาท จากมิสซิสโรส ลิม (Mrs. Rose Lim) สุภาพสตรีชาวสิงคโปร์ และได้รับบริจาดเตียงนอน จำนวน 12 หลัง จากมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยให้เป็นทุนเริ่มต้นในการจัดตั้ง “สถานคริสเตียนสงเคราะห์การศึกษาคนตาบอด" นายประหยัด ภูหนองโองได้เริ่มสอนหนังสือเด็ก ตาบอดจำนวน 13 คน ที่บ้านเช่าครึ่งหลัง บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ เรียนและเป็นที่พักอาศัยของเด็กตาบอด และมีอาสาสมัครเข้ามา ร่วมงานกับนายประหยัด ซึ่งมีเป้าหมายคือ ให้เด็กตาบอดทั้ง 13 คน มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ มีทักษะการช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน มีทักษะการอ่านการเขียนอักษรเบรลล์ โดยมีความหวังว่า เด็กตาบอดเหล่านี้จะได้รับโอกาสเข้าไปเรียน ร่วมกับเด็กทั่วไปบ้านหลังนี้จึงเป็นสถานที่ที่ผู้คนเข้ามาช่วยเหลือ บริจาคทุนทรัพย์ บริจาคอาหารและเป็นอาสาสมัคร ทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ผู้คนเริ่มมีทัศนคติที่ถูกต้องกับคนตาบอด

ปี 2524 ได้รับบริจาคที่ดินเพื่อจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนศึกษาคนตาบอดขอนแก่น” ณ เลขที่ 214 หมู่ที่ 10 ถนนมะลิวัลย์ ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์บริการการศึกษาสำหรับคน ตาบอดที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ปี 2526 มูลนิธิได้รับอนุมัติการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเป็น มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอด ในประเทศไทย โดยมีนายเฉลิมชัย จิตตะยโศธร เป็นประธาน ปี 2527 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงรับมูลนิธิไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” ปี 2531 กระทรวงการคลัง ประกาศให้มูลนิธิเป็นองค์การสถานสาธารณกุศล ลำดับที่ 174 ปี 2567 คณะกรรมการมูลนิธิมีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อ มูลนิธิ ภาษาอังกฤษ จาก The Christian Foundation for the Blind in Thailand under the Patronage of H.M. the King เป็น The Charity Foundation for the Blind in Thailand under the Patronage of H.M. the King มูลนิธิดำเนินงานมาแล้ว 45 ปี มีคนพิการทางการเห็นได้รับบริการทางการศึกษา ส่งเสริมอาชีพ และ ได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพมาแล้วมากกว่า 10,000 คน ปัจจุบันมูลนิธิมีหน่วยงานในความดูแลรับผิดชอบ 

ภาพสถานคริสเตียนสงเคราะห์การศึกษาคนตาบอด
ดร.ประหยัด ภูหนองโอง
ดร.ประหยัด ภูหนองโอง

จำนวน 26 หน่วย ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ และสำนักงานมูลนิธิ สาขาจังหวัด จำนวน 11 หน่วย สถานศึกษา จำนวน 10 หน่วย ได้แก่ โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด ขอนแก่น โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดร้อยเอ็ด โรงเรียน การศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนลพบุรี โรงเรียน การศึกษาคนตาบอดธรรมสากลหาดใหญ่ โรงเรียนธรรมิกวิทยา โรงเรียนการศึกษาเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อน ชะอำ โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย และวิทยาลัยอาชีวศึกษาคนตาบอด ขอนแก่น มีหน่วยสนับสนุนอื่น ๆ อีก จำนวน 5 หน่วย ได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนตาบอด พิการซ้ำซ้อนนครนายก ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาคนตาบอด ศูนย์เรียนรู้การฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอด โดยชุมชน สำนักหอสมุดเบญญาลัย และสถาบันส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอด ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ซึ่งมีพนักงานปฏิบัติงานรวมทั้งสิ้น จำนวน 420 คน มีนักเรียน นักศึกษา และคนตาบอดในชุมชน ที่อยู่ในความดูแลรวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 คน มูลนิธิต้องใช้งบประมาณในการดำเนินงานต่อปี ประมาณ 180 ล้านบาทต่อปี