ประวัติความเป็นมา

โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต ๑ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ประเภทสถานศึกษา โรงเรียนเอกชนตามมาตรา ๑๕ (๓) ประเภทการศึกษาพิเศษ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ (แต่ขอทำการจดทะเบียนสอนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖)
ได้รับอนุญาตจัดตั้ง เมื่อ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ตามใบอนุญาตเลขที่ นม ๗/๒๕๓๓ ลงวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๓ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓
เปิดสอนระดับ ชั้น อนุบาล ๑ ถึงระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๖ เนื้อที่ ๑๑ ไร่ ตารางวา เขตพื้นที่บริการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา
โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์บริการการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา เลขที่ ๑๔๙ ซอยวัชรปาน ถนนมุขมนตรี หมู่ที่ ๖ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๑ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ ประเภทสามัญศึกษา มาตรา ๑๕ ( ๓)(เป็นโรงเรียนในมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์) ได้รับอนุมัติให้เปิดทำการเรียน-การสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ แต่ปัจจุบันโรงเรียนเปิดทำการเรียน-การสอนในระดับชั้นอนุบาล ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนได้ส่งนักเรียนไปเรียนร่วมกับคนปกติในโรงเรียนเรียนรวมในจังหวัดนครราชสีมา (โรงเรียนสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนและส่งบุคลากรของโรงเรียนไปเป็นครูช่วยสอน)
โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา ก่อตั้งเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ใบอนุญาตเลขที่ นม ๗/๒๕๓๓ ลงวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๓ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ โดย นายประหยัด ภูหนองโอง เป็นผู้รับใบอนุญาต ผู้จัดการ และครูใหญ่ เปิดทำการเรียน- การสอนครั้งแรกในระดับชั้นอนุบาล ๑ จำนวนนักเรียน ๑๒ คน ครู ๑ คน ใช้อาคารบ้านพักรับรองตึก ๒ ชั้น ๓ ห้อง เป็นห้องเรียนและห้องปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน
วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้เปลี่ยนแปลงผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมาจากเดิมนายประหยัด ภูหนองโอง เป็น นายมุข วงษ์ชวลิตกุล ถึงปัจจุบัน
วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๔ ได้เปลี่ยนแปลงผู้อำนวยการโรงเรียน จากเดิมนายประหยัด ภูหนองโอง เป็นนางทวีทรัพย์ นามเกียรติ
วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้เปลี่ยนแปลงผู้อำนวยการโรงเรียน จากเดิมนางทวีทรัพย์ นามเกียรติ เป็นนายวิชัย สานคล่อง
วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้เปลี่ยนแปลงผู้อำนวยการโรงเรียน จากเดิม นายวิชัย สานคล่อง เป็น นายไชยา หงษ์ณี
วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้เปลี่ยนแปลงผู้จัดการโรงเรียนจากเดิม นางทวีทรัพย์ นามเกียรติ เป็นนางกาญจนา พรมแก้ว ถึงปัจจุบัน
วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑ ได้เปลี่ยนแปลงผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา จากเดิม นายมุข วงษ์ชวลิตกุล เป็น นายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์
วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑ ได้เปลี่ยนแปลงผู้อำนวยการโรงเรียน จากเดิม นายไชยา หงษ์ณี เป็น นายดรัณภพ นันตาเรือน
วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้เปลี่ยนแปลงผู้ผั้อำนวยการโรงเรียนจากเดิม นายดรัณภพ นันตาเรือน เป็นนายวิชัย สานคล่อง จนถึงปัจจุบัน


มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ก่อตั้งขึ้นโดยนายประหยัด ภูหนองโอง ซึ่งเป็นคนตาบอด ได้ขยายการบริการทางการศึกษาสู่คนตาบอดอีสานใต้ มีพื้นที่ให้บริการใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ
ต่อมา นายประหยัด ภูหนองโอง ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในขณะนั้น ได้จัดตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กตาบอด ขึ้นในศูนย์บริการการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2533
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2533 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด โดยพระราชทานนามศูนย์ฯ แห่งนี้ว่า “ศูนย์บริการการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา” เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น ให้บริการสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอน ให้แก่นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็นเรียนรวมในโรงเรียนปกติ นำมาซึ่งความปราบปลื้มปิติยินดีสู่พสกนิกรตาบอดเป็นอย่างยิ่งปี พ.ศ. 2536 โรงเรียนได้เปิดชั้นเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นปีแรก
ปัจจุบัน “ศูนย์บริการการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา” มีหน่วยงานทั้งสิ้น 3 หน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือนักเรียนตาบอด และ คนตาบอด ดังนี้ 1. สำนักงานมูลนิธิ สาขาจังหวัดนครราชสีมา 2. โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา 3. สำนักหอสมุดเบญญาลัย ซึ่งจะมีหน้าที่ในการดูแลบริหารจัดการ การระดมทุน และฟื้นฟูคนพิการตาบอดที่อยู่ตามชุมชน จัดการเรียนการสอน และ ผลิตสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับคนตาบอด สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาให้กับคนตาบอด เพื่อให้คนตาบอดได้รับโอกาสทางการศึกษาได้พัฒนาตนให้สามารถช่วยเหลือตัวเอง ก่อประโยชน์ต่อตนเองและสังคมในอนาคตสืบไป